Tuesday, March 29, 2005

นักซีเคียวริตี้ระบุ “ไฟร์ฟ็อกซ์” ปลอดภัยกว่า IE


บริษัทซีเคียวริตี้สัญชาติเบลเยี่ยม สแกนไอที (ScanIT) เปิดเผยผลการสำรวจการใช้งานเบราเซอร์ยอดนิยม อินเทอร์เน็ต เอ็กพลอเรอร์ (IE) กับเบราเซอร์น้องใหม่มาแรง ไฟร์ฟ็อกซ์ (Firefox) ของมอสซิลล่าในปี 2004 พบว่า การใช้งานเบราเซอร์ IE นั้นก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อระบบถึง 98 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ไฟร์ฟ็อกซ์นั้นมีเพียง 15 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

สแกนไอทีพบว่า มีไวรัสหรือเวิร์มสามารถเจาะระบบคอมพิว์เตอร์ผ่านเบราเซอร์ IE ได้ประมาณ 200 วันใน 1 ปี เปรียบเทียบกับไฟร์ฟ็อกซ์แล้วพบว่ามีวันโชคร้ายที่โดนไวรัสเจาะเข้ามาได้แค่ 56 วัน (15 เปอร์เซ็นต์ของเวลาทั้งหมด)

“นั่นอาจเป็นเพราะซอฟต์แวร์ของมอสซิลล่าไม่ใช่เป้าหมายของนักพัฒนาไวรัสก็เป็นได้ แต่ถ้าในอนาคต ไฟร์ฟ็อกซ์ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ตัวเลขดังกล่าวก็อาจจะเปลี่ยนไปได้”

อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ไฟร์ฟ็อกซ์นั้นเป็นเบราเซอร์ที่มีประสิทธิภาพกว่า IE ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไฟร์ฟ็อกซ์พัฒนาบนพื้นฐานของโอเพ่นซอร์ส และมอสซิลล่ายังเปิดโครงการให้ยูสเซอร์มีส่วนร่วมในการแจ้งปัญหาข้อบกพร่อง บัก (Bug) ของโปรแกรมมาด้วย โดยมอสซิลล่าจะจ่ายค่าเหนื่อยให้ครั้งละ 500 เหรียญสหรัฐ ต่อยูสเซอร์ที่รายงานเข้ามา

มิเชล เบเคอร์ ประธานของมอสซิลล่าก็ออกมายืนยันว่าเบราเซอร์ของเธอมีความปลอดภัยมากกว่า IE แน่นอน โดยต่างกันตรงที่ IE ที่ผูกติดอยู่กับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ นอกจากนั้นเธอยังปฏิเสธแนวความคิดในการเพิ่มมูลค่าส่วนแบ่งการตลาดโดยส่งผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้คุณภาพออกไปด้วย

คริส ฮอฟแมนน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมของมอสซิลล่ากล่าวว่า “ผู้บริโภคควรจะศึกษาเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมของเบราเซอร์ แล้วเขาจะพบว่าเบราเซอร์ส่วนมากก็มีสถาปัตยกรรมที่คล้ายคลึงกัน จะมีเพียงไมโครซอฟท์ที่ใส่ ActiveX ระบบซีเคียวริตี้ ฯลฯ เข้าไปในเบราเซอร์เพื่อให้มันดูดีมากขึ้น จากนั้นก็เอามันออกมาขายทำกำไรต่อไป”

ด้านเดฟ แมสซี่ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ IE ของไมโครซอฟท์ก็ออกมาโต้แย้งถึงข้อกล่าวหาดังกล่าวนี้ทันทีว่า “การพัฒนาผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ในแต่ละรุ่นก็เพื่อต้องการให้แน่ใจว่าความเป็นส่วนตัวของยูสเซอร์จะไม่ถูกทำลายไป และเราก็ยังคงยึดแนวทางนี้ เดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง” เดฟยังกล่าวต่อไปอีกด้วยว่า สิ่งที่เบเคอร์ออกมากล่าวหาว่า IE มีบั๊กเยอะเพราะว่าผูกติดอยู่กับระบบปฏิบัติการวินโดวส์นั้นไม่เป็นความจริง

“การจะเปรียบเทียบความปลอดภัยในการใช้งานเบราเซอร์นั้นควรจะทำบนพื้นฐานของตัวแปรที่เหมือนกัน แต่ในกรณีนี้ แค่ชนิดของโปรแกรมก็ไม่เหมือนกันแล้ว” โดยเดฟระบุว่า IE ถือเป็นโปรแกรมหนึ่งของระบบปฏิบัติการ (OS) จึงทำให้มันต้องมีฟังก์ชันการทำงานต่าง ๆ ของโอเอสอยู่ด้วย ซึ่งทำให้มันมีความพิเศษกว่าเบราเซอร์ตัวอื่น ๆ

ขณะที่ทั้งสองค่ายออกมาโต้เถียงกันอย่างรุนแรงเกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้ใช้งาน อัลเฟรด ฮิวเกอร์ รองประธานฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของไซแมนเทคก็ให้ความเห็นว่า “เทรนด์ในการโจมตีคอมพิวเตอร์กำลังมุ่งเป้าไปที่เบราเซอร์แล้ว เนื่องจากเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีขนาดใหญ่มาก”

0 ความคิดเห็น:

Post a Comment

<< Home